การเพิ่มศักยภาพลูกกุ้งไทยไปกับ INVE

ประเด็นสำคัญที่นำเสนอ:

1. ความสำคัญของโปรโตคอลการเลี้ยงกุ้ง:
2. การจัดการที่เหมาะสมและการรักษาสมดุลในการจัดการน้ำและพันธุกรรมจะช่วยเพิ่มผลผลิตและลดความเสี่ยงในการเลี้ยงกุ้ง
3. หากการจัดการไม่ดีหรือโปรโตคอลต่ำกว่ามาตรฐาน จะส่งผลให้ลูกกุ้งที่บ่อดินมีการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน
4. มีการกล่าวถึงการทดลองเปรียบเทียบอาหารและโปรโตคอลในฟาร์มเพาะฟัก ซึ่งผลลัพธ์ในฟาร์มเพาะฟักอาจคล้ายกัน แต่ผลลัพธ์ที่บ่อดินจะแสดงความแตกต่างในอัตราการเติบโต (ADG) และอัตราการรอด
5. ปัญหาและแนวทางการจัดการเชื้อแบคทีเรียในอาร์ทีเมีย:
6. มีการแสดงภาพไข่อาร์ทีเมียที่ฟักตัวแล้วเหลือแต่เปลือก
7. อาร์ทีเมียที่ใช้ในประเทศไทยส่วนใหญ่มี 2 ระยะ (Instar One และ Instar Two) โดย Instar One มีความยาว 500 ไมครอน และ Instar Two มีความยาว 700 ไมครอน
8. หากเพาะอาร์ทีเมียเกิน 24 ชั่วโมง อาร์ทีเมียจะเปลี่ยนเป็น Instar Two เกือบทั้งหมด ซึ่งน้ำหนักเปียกจะเพิ่มขึ้น แต่สารอาหารจะลดลง และอาร์ทีเมียจะเริ่มเปิดปากและทวาร ทำให้กรองน้ำเข้าตัวและสะสมเชื้อ Vibrio ได้ง่าย
9. มีการนำเสนอข้อมูลการวิเคราะห์สารอาหารในอาร์ทีเมียที่ระยะเวลาการเพาะต่างกัน พบว่าโปรตีนและกรดไขมันจะลดลงเมื่อระยะเวลาการเพาะนานขึ้น
10. มีการกล่าวถึงฟาร์มในเวียดนามที่เพาะอาร์ทีเมียเพียง 14-16 ชั่วโมง โดยเน้นที่จำนวนตัวอาร์ทีเมียที่กุ้งกิน ไม่ใช่น้ำหนักเปียก
11. มีการแสดงให้เห็นแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในอาร์ทีเมีย แม้จะเป็นอาร์ทีเมีย Instar One
12. เชื้อแบคทีเรีย Vibrio จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังอาร์ทีเมียฟักตัว เนื่องจากมีสาร Glycerol ซึ่งเป็นอาหารเลี้ยงเชื้อชั้นดี
13. มีการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมและลดปริมาณเชื้อ Vibrio ในกระบวนการเพาะฟักอาร์ทีเมีย
14. ผลิตภัณฑ์เพื่อควบคุมเชื้อ Vibrio โดยจะยับยั้งการทำงานของ Glycerol และทำให้ตัวอาร์ทีเมียมีการ Active มากขึ้น
15. มาตรฐานของ INVE:
16. โรงงาน INVE ได้รับมาตรฐานระดับสากลหลายอย่าง เช่น Global Gap และ GMP เนื่องจากเป็นบริษัทนานาชาติที่ผลิตและส่งออกสินค้าไปทั่วโลก
17. ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักและเป็นประเทศต้นน้ำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถรับชมจากวิดีโอ...