”งานวันกุ้งกระบี่ ปี 68 ครั้งที่ 22” ภายใต้หัวข้อ ”รวมพลังฝ่าวิกฤต พิชิตตลาดโลก” โดยเป็นการกล่าวรายงานของ นายวนัส วัฒธรรม ประธานชมรมเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ และคำกล่าวเปิดงานโดย นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีให้เกษตรกรแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงกุ้ง ส่งเสริมนวัตกรรม และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงศักยภาพของจังหวัดกระบี่ในการผลิตกุ้งคุณภาพสูง โดยเฉพาะกุ้งกุลาดำ และความพยายามในการผลักดันให้กุ้งกระบี่ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เพื่อเพิ่มมูลค่าในตลาดโลก การจัดงานได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน รวมถึงบริษัทเอกชนจำนวนมาก ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อพัฒนาธุรกิจการเลี้ยงกุ้งให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวกระบี่

’รวมพลังฝ่าวิกฤต’: นี่ไม่ใช่งานเฉลิมฉลอง แต่คือการตั้งรับ

แค่ได้ยินชื่อธีมของงานอย่างเป็นทางการว่า ”รวมพลังฝ่าวิกฤต พิชิตตลาดโลก” ก็บ่งชี้ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่การจัดงานเพื่อเฉลิมฉลอง แต่เป็นการรวมตัวเพื่อวางยุทธศาสตร์และตั้งรับกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญอยู่

วัตถุประสงค์หลักของงานจึงลึกซึ้งกว่าการพบปะสังสรรค์ แต่เป็นการประชุมสุดยอดเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และหาทางออกในประเด็นสำคัญๆ ที่ครอบคลุมทั้ง ”แนวทางการเลี้ยง” ”ทิศทางการตลาด” ”การลดต้นทุน” และ ”การป้องกันโรคระบาด” นี่คือการรวมพลังเพื่อความอยู่รอดและการเติบโตของอุตสาหกรรมกุ้งไทยอย่างแท้จริง

งานวันกุ้งกระบี่ครั้งนี้แสดงให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าความสำเร็จของอุตสาหกรรมไม่ได้มาจากเกษตรกรเพียงลำพัง แต่เกิดจาก ”ระบบนิเวศ” ของความร่วมมือที่แข็งแกร่งและกว้างขวางจากทุกภาคส่วน

ภายในงานไม่ได้มีแค่เกษตรกร แต่ยังเต็มไปด้วยหน่วยงานภาครัฐอย่างกรมประมง ภาคเอกชนที่เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ เช่น บริษัท กรุงไทยอาหาร จำกัด (มหาชน) และผู้สนับสนุนรองรวม 9 บริษัท นอกจากนี้ยังมีบริษัทห้างร้านและหน่วยงานอื่นๆ ที่ร่วมสนับสนุนอีกมากกว่า 24 แห่ง รวมถึงเครือข่ายชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ภาพนี้ตอกย้ำว่าการจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยพลังจากเครือข่ายที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง