ส่องฟาร์ม

   เมื่อ : 21 ก.ค. 2568

ดร.ทรงวุฒิ หรือ อาจารย์หนู สำเร็จการศึกษาด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในระดับปริญญาเอก และเคยทำงานที่ศูนย์วิจัยความเป็นเลิศด้านกุ้ง ทีมงานได้รวมตัวกันมาทำธุรกิจเพาะเลี้ยงกุ้งในภาคเอกชน แรงบันดาลใจสำคัญคือการพิสูจน์ว่านักวิชาการก็สามารถเลี้ยงกุ้งได้จริง ปัจจุบันมีทีมงานที่เป็นหุ้นส่วนกว่า 31 คน จากหลากหลายสถาบันและหลากหลายสายอาชีพ


การดำเนินธุรกิจ

ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากการทำบ่อดินมา 2 ปี และธุรกิจเพาะเลี้ยงลูกกุ้งจำหน่ายมากว่า 6 ปี การเริ่มต้นประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยบ่อแรกและบ่อที่สองได้กำไรดี ทำให้สามารถขยายเป็นบ่อที่สามได้ภายในปีเดียว ทีมงานมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน เช่น ผู้บริหาร ผู้ดูแลแร่ธาตุ จุลินทรีย์ บัญชี อาหาร เครื่องยนต์ และคนงาน ระบบบัญชีมีการปิดยอดทุกวัน และทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านระบบออนไลน์ การก่อสร้างโรงเรือนและออกแบบระบบต่างๆ ทำโดยทีมงานเอง โดยใช้ความเชี่ยวชาญของแต่ละคน


เทคนิคการเลี้ยงกุ้ง


  1. การเตรียมบ่อ: ใช้ระบบฉีดเลนทำความสะอาดบ่อ ทิ้งบ่อไว้ 7-15 วันเพื่อแช่บ่อ ลงปูนร้อน ปูนขาว และเสริมปูนมาร์ลรวมกันไม่เกิน 750 กก./ไร่
  2. การเตรียมน้ำ: ดูดน้ำจากใต้ทราย มี 3 ขั้นตอนหลักในการฆ่าเชื้อ: กำจัดพาหะ (กุ้ง หอย ปู ปลา) ใช้ด่างทับทิม 5-10 กก./ไร่ และใช้คลอรีน 15 กก./ไร่ พักน้ำ 3 วันหลังใช้คลอรีน จากนั้นใช้จุลินทรีย์สลับกันไป โดยใช้จุลินทรีย์น้ำหมักสับปะรด และบาซิลลัสรวม 3 ตัว (BS BL BM) ไม่ใช้สารเคมีใดๆ หลังจากการใช้คลอรีน เริ่มใช้สีน้ำเทียมในรอบที่ 7 เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศทำให้สีน้ำไม่เสถียร และใช้ระบบจุลินทรีย์ 100%
  3. ลูกกุ้งและการปล่อย: ใช้ลูกกุ้งสายพันธุ์ ซายอาคควา จาก NSW ฟาร์มเท่านั้น อัตราการปล่อยเริ่มต้นที่ 100000 ตัว/ไร่ และทดลองเพิ่มถึง 300000 ตัว/ไร่
  4. การให้อาหาร: เริ่มต้นที่ 1 กก. ต่อ 100000 ตัว ทุก 3 วัน วันละ 3 มื้อ โดยหว่านมือรอบบ่อจนถึงวันที่ 20 ช่วงวันที่ 20-30 ใช้ Auto Feed ครึ่งหนึ่ง และหว่านมือครึ่งหนึ่ง วันที่ 31 เป็นต้นไปใช้ Auto Feed 100%
  5. การจัดการน้ำและแร่ธาตุ: ใช้น้ำสดจากใต้ทราย ไม่ต้องมีบ่อพักน้ำ มีการถ่ายน้ำบ้างเมื่อถึง 50 วัน ทุก 7 วันจะลงแคลเซียมคลอไรด์ แมกนีเซียมคลอไรด์ และโปแทสเซียมคลอไรด์ ประมาณ 7-8 กก./ไร่ มีการตัดเชื้อทุก 1 อาทิตย์ โดยใช้กลูตาราลดีไฮด์ 15% และ BKC 10% ลงสารฆ่าเชื้อตอนเช้า และจุลินทรีย์ตอนค่ำ
  6. ผลผลิตและ FCR: FCR อยู่ที่ 1.2-1.4 โดยเฉลี่ย 1.2-1.3 ADG (อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อวัน) ของกุ้งสายพันธุ์ซายอาคควาอยู่ที่ 0.18-0.26 แต่ที่นี่เคยทำได้ถึง 0.7 ผลผลิตประมาณ 2-3 ตันต่อไร่
  7. การจัดการของเสีย: ดูดเลนที่พื้นบ่อทุก 2 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 12 ของการเลี้ยง ในน้ำใช้จุลินทรีย์ ในการบำบัด


หัวใจสำคัญของความสำเร็จ

  1. ระบบน้ำใต้ทรายที่ช่วยลดต้นทุนการจัดการ
  2. ระบบการใช้จุลินทรีย์ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและเข้าสู่ระบบสมดุล


ทีมงานมีความสุขในการทำงานร่วมกัน แม้จะเจอวิกฤตน้ำท่วมก็ไม่มีใครทิ้งกัน ทุกคนพร้อมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เป้าหมายคือการเติบโตไปด้วยกัน ไม่ใช่รวยคนเดียว


ชมรายละเอียดเพิ่มเติมจากวิดีโอ...