ส่องฟาร์ม
ชูเกียรติ ฟาร์ม เดินหน้าทำกุ้งกุลาดำแบบหนาแน่น ไซส์ใหญ่ ทำโคตรกุ้ง ขายกก.ละ 420 บ.


ชูเกียรติ ฟาร์ม เดินหน้าทำกุ้งกุลาดำแบบหนาแน่น ไซส์ใหญ่ ทำโคตรกุ้ง ขายกก.ละ 420 บ.
คุณชูเกียรติเล่าว่าการเลี้ยงกุ้งกุลาดำไม่ยากอย่างที่คิด ซึ่งเขาได้แบ่งปันแนวทางการเลี้ยงอย่างละเอียด ตั้งแต่การเตรียมบ่อไปจนถึงการจัดการผลผลิต เพื่อให้ทุกคนสามารถเลี้ยงกุ้งกุลาดำให้ประสบความสำเร็จได้
เริ่มต้นจากการเตรียมบ่ออย่างถูกต้อง
ชูเกียรติ ฟาร์ม ใช้บ่อเลี้ยงหลายรูปแบบ ทั้งบ่อดิน บ่อ PE และบ่อผสมผสาน โดยเน้นว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง หากมีบ่ออยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้ได้ทันที ขั้นตอนสำคัญคือการเตรียมบ่อด้วยการฉีดล้างเลน ใส่น้ำ ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน และสร้างอาหารธรรมชาติด้วยการหมักปลาป่นและรำ
การจัดการดูแลกุ้งตลอดวงจร
- การเลือกพันธุ์กุ้ง: คัดเลือกลูกกุ้งจากฟาร์มที่เชื่อถือได้ และนำมาตรวจเช็คสุขภาพก่อนปล่อย เพื่อให้มั่นใจว่ากุ้งมีสุขภาพดี ไม่มีเชื้อโรค
- การให้อาหาร: สิ่งที่แตกต่างและเป็นหัวใจสำคัญของฟาร์มนี้คือ การให้อาหาร 24 ชั่วโมง เพราะกุ้งกุลาดำเป็นสัตว์ที่กินอาหารตลอดเวลา การให้อาหารอย่างต่อเนื่องจะช่วยป้องกันไม่ให้กุ้งกินกันเอง ส่งผลให้อัตราการรอดสูงขึ้น และค่า FCR (อัตราแลกเนื้อ) ต่ำลง
- การจัดการน้ำและสภาพแวดล้อม: ใช้ปูนขาวเพื่อปรับสภาพน้ำ ใช้จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายของเสียในบ่อ ทำให้ลดการถ่ายน้ำและยังช่วยให้กุ้งมีสุขภาพดี
- การจัดการค่าไฟ: ใช้เครื่องตีน้ำที่ปรับความเร็วได้ (Inverter) ช่วยควบคุมกระแสไฟและประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว ทำให้ต้นทุนค่าพลังงานต่อกุ้ง 1 กิโลกรัมอยู่ที่เพียง 10 บาท
การเก็บเกี่ยวและผลผลิต
ชูเกียรติ ฟาร์ม วางแผนการจับกุ้งตามความต้องการของตลาด เช่น การจับแบบทยอยจับ (Partial Harvesting) เพื่อเพิ่มมูลค่า และการจับแบบปิดบ่อ สำหรับผลผลิตที่ผ่านมาทำได้สูงสุด 4.3 ตันต่อไร่ และคาดว่าจะเพิ่มได้ถึง 5.5 ตันต่อไร่ในอนาคต
คุณชูเกียรติ ทิ้งท้ายว่าการเลี้ยงกุ้งกุลาดำไม่ใช่เรื่องยาก และทุกคนสามารถทำได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรรายเล็กหรือรายใหญ่ สิ่งสำคัญคือการมีองค์ความรู้และการวางแผนที่ดี เพื่อพัฒนาวงการเลี้ยงกุ้งกุลาดำของไทยให้ก้าวหน้าต่อไป เขามีความฝันที่จะทำให้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นมหานครแห่งกุ้งกุลาดำ
รายละเอียดเพิ่มเติม รับชมได้ทางวิดีโอ....
