รายงานพิเศษ

   เมื่อ : 7 ก.พ. 2568

ไทย-เวียดนาม-อินโดนีเซีย VS เอกวาดอร์-อาร์เจนตินา: ใครจะเป็นผู้นำตลาดกุ้งในอีก 5 ปี?


การแข่งขันในตลาดกุ้งโลกกำลังเปลี่ยนแปลง โดย กลุ่มเอเชีย (ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย) ต้องเผชิญกับความท้าทายจาก กลุ่มละตินอเมริกา (เอกวาดอร์ อาร์เจนตินา) ที่กำลังขยายตลาดอย่างรวดเร็ว



---


1. ปัจจัยหลักที่กำหนดอนาคตของตลาดกุ้ง


1.1 ต้นทุนการผลิตและความสามารถในการแข่งขัน


เอกวาดอร์และอาร์เจนตินาได้เปรียบเรื่องต้นทุน


เอกวาดอร์ใช้ระบบเลี้ยงกุ้งแบบ Extensive & Semi-Intensive ที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ ต้นทุนต่ำกว่าเอเชีย 20-30%


อาร์เจนตินาใช้ การจับกุ้งจากธรรมชาติ (Wild-caught) จึงไม่มีต้นทุนฟาร์มและอาหารกุ้ง



ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ต้นทุนสูงขึ้น


ค่าแรง ค่าพลังงาน และค่าขนส่งสูงขึ้นเรื่อยๆ


ปัญหาโรคระบาดในฟาร์มกุ้ง เช่น EMS และ White Spot ทำให้ผลผลิตลดลง




1.2 คุณภาพสินค้าและความต้องการของตลาด


ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย เน้นกุ้งขาวแวนนาไมคุณภาพสูงและมีมาตรฐานปลอดภัย


เอกวาดอร์ เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีเพาะเลี้ยงกุ้งเพื่อให้คุณภาพดีขึ้น และสามารถแข่งขันกับเอเชียได้


อาร์เจนตินา ส่งออก ”กุ้งแดง” (Argentine Red Shrimp) ที่เป็นสินค้าพรีเมียมและได้รับความนิยมในยุโรป



1.3 ตลาดหลักและโอกาสขยายตลาด


กลุ่มเอเชีย (ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย)


ตลาดหลัก: ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ และยุโรป


ความได้เปรียบ: ความสัมพันธ์ทางการค้าและมาตรฐานการส่งออกสูง


ความท้าทาย: ต้นทุนสูงขึ้น และการแข่งขันจากเอกวาดอร์



กลุ่มละตินอเมริกา (เอกวาดอร์ อาร์เจนตินา)


ตลาดหลัก: จีน สหรัฐฯ และยุโรป


ความได้เปรียบ: ราคาถูก ต้นทุนต่ำ และคุณภาพเริ่มดีขึ้น


ความท้าทาย: ต้องพัฒนาคุณภาพให้เทียบเท่าเอเชีย





---


2. ใครจะเป็นผู้นำตลาดในอีก 5 ปีข้างหน้า?


➡️ เอกวาดอร์: ตัวเต็งขึ้นเป็นผู้นำตลาดโลก


✅ อัตราการเติบโตสูงที่สุด: การส่งออกกุ้งของเอกวาดอร์เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในจีนและสหรัฐฯ

✅ ต้นทุนต่ำและการขยายกำลังการผลิต: สามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีกว่าเอเชีย

✅ นวัตกรรมฟาร์มกุ้งและการใช้เทคโนโลยี AI & IoT: ทำให้เพิ่มผลผลิตและลดความเสี่ยงจากโรคระบาด


➡️ เวียดนาม: คู่แข่งที่แข็งแกร่งในตลาดพรีเมียม


✅ ความเชี่ยวชาญในการผลิตกุ้งมูลค่าเพิ่ม (Value-Added Shrimp) เช่น กุ้งปรุงรส กุ้งแปรรูป

✅ ตลาดส่งออกที่มั่นคง โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป


➡️ ไทย: อาจเสียส่วนแบ่งตลาด หากไม่เร่งปรับตัว


⚠️ ต้นทุนสูง และต้องปรับตัวสู่ตลาดพรีเมียม

⚠️ การพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อแข่งขันกับเอกวาดอร์


➡️ อินโดนีเซีย: อาจกลายเป็นตลาดรอง


⚠️ ยังคงพึ่งพาตลาดจีนเป็นหลัก และอาจได้รับผลกระทบหากจีนลดการนำเข้า


➡️ อาร์เจนตินา: จะเติบโตในตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market)


✅ กุ้งแดงอาร์เจนตินาเป็นสินค้าพรีเมียมที่ได้รับความนิยม ในยุโรปและสหรัฐฯ

✅ แต่ปริมาณการผลิตไม่มากพอที่จะแข่งขันกับเอกวาดอร์หรือเวียดนามได้



---


3. สรุปแนวโน้มตลาดกุ้งในอีก 5 ปี



---


ข้อเสนอแนะสำหรับไทย


ต้องลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยใช้ Smart Farming และพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยง


ขยายตลาดพรีเมียม เช่น กุ้งออร์แกนิก หรือกุ้งแปรรูปมูลค่าเพิ่ม


พัฒนาแบรนด์กุ้งไทย ให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก




---


ข้อสรุป


ในอีก 5 ปีข้างหน้า เอกวาดอร์มีแนวโน้มจะเป็นผู้นำตลาดกุ้งโลก เนื่องจากต้นทุนต่ำและขยายตลาดได้รวดเร็ว ขณะที่ เวียดนามยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดพรีเมียม ส่วนไทยและอินโดนีเซียอาจเสียส่วนแบ่งตลาดหากไม่เร่งปรับตัว


ไทยควรเน้นพัฒนานวัตกรรมและขยายตลาดพรีเมียมเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว




#กุ้งไทย #กุ้งโลก #การเลี้ยงกุ้ง #นวัตกรรมการเลี้ยงกุ้ง